ตดเหม็นกับตดบ่อยอันไหนอันตรายกว่ากัน

นอกจากเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีความน่าสนใจแล้ว  เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายของเราก็อย่างหนึ่งสิ่ง  ที่เราควรจะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ 

เพราะสุขภาพร่างกายของเรานั้นมันจะดีไม่ได้เลย  ถ้าหากว่าเราไม่ดูแลรักษามันเป็นอย่างดี  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้เป็นคำถามที่ใครหลายคนก็เคยตั้งคำถามมาก่อน  หรือว่าใครหลายๆคนก็ไม่เคยตั้งมาเลยแต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเรื่องราวดังกล่าวนี้กัน 

ตดเหม็นกับตดบ่อยอันไหนอันตราย เพราะว่าเกี่ยวข้องกับร่างกายของเราดังนั้นแล้วเราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมัน

คุณรู้หรือไม่ว่ากลิ่นตดของเรานั้นมันก็ขึ้นอยู่กับอาหารการกินของเราด้วย  อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นะ  เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน  และเรื่องราวที่เราจะพูดถึงในวันนี้นะที่เกี่ยวข้องกับอะไรและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนไปทำความรู้จักกัน  พร้อมกันอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า 

เราจะตดได้นั้น มันขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาหารจำพวกโปรตีนสูง ที่เกินทนมันจะแพงกว่าอาหารประเภทอื่น  ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพมากนัก  แต่ในขณะที่จำนวนครั้งในการตดนั้น  มันสามารถบ่งบอกอะไรได้มากกว่า และอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าคนสุขภาพดีทั่วไปจะตดอยู่ที่ประมาณ 14-23 ครั้งต่อวัน 

ซึ่งถือว่าไม่มีอันตรายใดๆแต่ถ้าหากว่าตดบ่อยมากกว่านั้นอย่างเช่นวันละ 40-50 ครั้งกว่า  

 จะมาดึงสัญญาณของความผิดปกติบางอย่างยกตัวอย่างเช่นปัญหาในการย่อยสลายอาหารการแพ้อาหารโรคลําไส้แปรปรวนไปถึงสัญญาณของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้  และเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้  เราพบว่าตัวเองเริ่มตดบ่อยมากเกินไป

  เราก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและลดการดื่มน้ำอัดลม  งดการสูบบุหรี่และลดการเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นต้น   หรือถ้าหากว่ามีการตดบ่อยมากเกินไปจริงๆการปรึกษาแพทย์  เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดี อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่างๆในร่างกายของเรานั้น ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมายนอก 

จากเรื่องราวดังกล่าวนี้ถ้าคนสนใจที่จะศึกษามันเพิ่มเติมไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และสามารถศึกษาค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในอินเตอร์เน็ตหรือว่าจะหาหนังสือที่เกี่ยวข้องมาอ่านเพิ่มเติมความรู้ในเรื่องที่เสียหายอะไรแต่ว่ามันก็เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ที่เราจะหาความรู้เอาไว้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ใช้เครื่องช่วยฟังเมื่อไหร่ดี