คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวที่น่าสนใจ

สาวถูกลอตเตอรี่ จากการบนขอไอ้ไข่งวดที่แล้วเฉียดงวดนี้ของจริงรางวัลที่ 1 ได้รับ 12 ล้าน

          เมื่อที่ 16 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564    ที่จังหวัดสุรินทร์   ตำบลแนงมุด  ชาวบ้านได้มีการร่ำลือกันว่า มีแม่ค้าขายของชำคนนึงซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบด้วยกัน ของที่ชาวบ้านต่างก็พากันพูดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมากและไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แนงมุด ก็ได้รับการติดต่อจากชาวบ้านหญิงคนหนึ่งเดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการนำลอตเตอรี่จำนวน 2 ใบไปขึ้นลงบันทึกประจำวันไว้

        โดยแม่ค้าคนดังกล่าวนั้นมีชื่อว่านางสาวขวัญตาซึ่งเธอได้เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า เธอได้ซื้อลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 2 ใบนี้มาจากแม่ค้าขายหวยซึ่งเป็นคุณยายตาบอดคนหนึ่งซึ่งขายอยู่ที่ตลาดหน้าสำนักงานเกษตรปราสาท  โดยนางสาวขวัญตาระบุว่าในขณะที่เธอนั้นเดินอยู่ในตลาดเพื่อทำการซื้อของเธอเห็นว่าคุณยายขายล็อตเตอรี่คนนี้  เดินผ่านหน้าเธอถึง 2 ครั้งด้วยกัน

        ด้วยความสงสารคุณยายเธอจึงซื้อลอตเตอรี่กับคุณยายอยู่หลายใบโดยมีเลขท้าย 17 และเลขท้าย 861   ซึ่งเธอได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตัวเลขที่เธอซื้อมานี้เธอไม่ได้ไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนแต่เป็นตัวเลขที่เธอนำมาจากทะเบียนรถยนต์ของเพื่อนเธอยังไง

ก็ตามเธอยังเล่าให้บรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มาร่วมแสดงความยินดีของเธอรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยว่าอันที่จริงแล้วผลสลากกินแบ่งงวดประจำวันที่ 1 มิถุนายนปี พ.ศ. 2564 นั้นเธอก็ซื้อลอตเตอรี่เช่นเดียวกันแล้วเธอถูกลอตเตอรี่เลข 3 ตัวหน้าจะถูกเลขท้าย 2 ตัวอยู่หลายใบ

 ซึ่งมีใบหนึ่งที่ออกตัวเลขคล้ายกับรางวัลที่ 1 แต่ว่าตัวเลขผิดกันไปแค่ตัวเดียวเท่านั้นเองซึ่งงวดที่แล้วนั้นเธอเสียดายเป็นอย่างมากที่เธอไม่ถูกรางวัลที่ 1 ต่อมาเธอก็ได้มีการบนบานขอกับรูปปั้นของไอ้ไข่ซึ่งเธอนั้นบูชามาเก็บไว้ที่บ้านเนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นคนที่นับถือไอ้ไข่เป็นอย่างมากและเธอมักจะขอกับไอ้ไข่ เป็นประจำ

      โดยงวดนี้นั้นเธอขอไอ้ไข่ว่าเธออยากจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะว่าหลานชายของเธอกำลังจะบวชและเถิดอยากได้เงินไปช่วยงานบวชหลานชายของเธอ   โดยเธอเชื่อว่าที่เธอ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 นั้นก็เพราะว่าไอ้ไข่ให้โชคเธออย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามเธอได้บอกว่าเงินรางวัลที่ 1 ที่เธอได้มานี้เธอจะนำไปทำบุญตามวัดต่างๆและตามมูลนิธิต่างๆรวมถึงบรรดาญาติพี่น้องของเธอที่ตอนนี้ต่างก็มีหนี้มีสินเธออยากจะช่วยญาติพี่น้องของเธอใช้หนี้ให้หมดและเธอก็จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 

 

สนับสนุนโดย    กติกาการเล่นหวยฮานอย

โรงหนังสกาล่า ปิดกิจการแบบถาวร เพราะทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว 

          เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อโรงหนังสกาล่ากันมาบ้างเพราะโรงหนังแห่งนี้เป็นโรงหนังที่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจอย่างสยามซึ่งเรามักจะได้ยินชื่อโรงหนังสกาล่าจากการที่ภาพยนตร์เวลาที่จะเปิดตัวครั้งแรกมักจะมีการไปฉายหนังที่โรงภาพยนตร์สกาล่า

ในการจัดงานรวมถึงบางครั้งหากมีกิจกรรมหรือมีงานที่เกี่ยวกับทางด้านการบันเทิงก็จะมีการไปจัดงานที่โรงภาพยนตร์สกาลาทำให้เรานั้นรู้จักชื่อเสียงของโรงภาพยนตร์แห่งนี้กันมาเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามสำหรับโรงภาพยนตร์สกาล่านั้นเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่มีความจุจำนวนที่นั่งของผู้ที่สามารถเข้าชมภาพยนตร์ได้นั้นมากถึง 1000 ที่นั่ง

แต่ส่วนมากแล้วโรงภาพยนตร์สกาลานั้นจะมีการฉายหนังเฉพาะหนังรอบปฐมทัศน์ซึ่งจะมีการจัดงานใหญ่โตมีนักข่าวมาทำข่าวเพราะ โรงหนังแห่งนี้เป็นโรงหนังที่สร้างขึ้นมาสำหรับการทำธุรกิจโดยเฉพาะโดยมีการเปิดกิจการโรงหนังสกาล่าแห่งนี้มานานมากกว่า 50 ปี

แล้วโรงหนังแห่งนี้อยู่ในย่านของเขตชุมชนและเป็นแหล่งที่มีเหล่าไฮโซทั้งหลายมาเดินนั่นก็คืออยู่แถวย่านสยามนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้เองทางโรงภาพยนตร์สกาล่าได้มีการออกมาประกาศเกี่ยวกับการปิดกิจการการฉายหนังในโรงภาพยนตร์สกาล่าเป็นแบบถาวรโดยให้เหตุผลเกี่ยวกับการปิดกิจการในครั้งนี้

ว่ามีปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินซึ่งก็มาจากผลพวงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า อย่างไรก็ตามอันที่จริงแล้วโรงหนังสกาล่านั้นได้มีการปิดทำการชั่วคราวมาแล้วตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาดใหม่ๆนั่นก็คือตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนมีนาคมประมาณกลางเดือนและติดยาวมาจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมแต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางผู้บริหารของโรงหนังสกาล่าได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันก็พบว่าโรงหนังสกาลานั้น

คงจะต้องยุติบทบาทการฉายภาพยนตร์เนื่องจากว่าปัจจุบันยังมีผลกระทบเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการการเปิดโรงภาพยนตร์และที่สำคัญนั้นสถานที่ที่มีการตั้งโรงภาพยนตร์สกาล่านั้นเป็นสถานที่เช่ามาอีกต่อหนึ่งและสัญญาเช่าก็กำลังจะหมดลงทำให้ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าควรจะยุติบทบาทในเรื่องของการฉายหนัง

แต่อย่างไรก็ตามที่โรงภาพยนตร์สกาลาแห่งนี้จะยังเปิดให้ดำเนินการทำธุรกิจด้านอื่นๆได้เช่นหากใครจะเช่าพื้นที่สำหรับการจัดงานหรือจัดทำกิจกรรมต่างๆหรือจัดงานอีเว้นท์ก็สามารถมาติดต่อทางผู้บริหารของโรงหนังสกาล่าได้เพื่อที่จะเปิดให้เช่าในการทำกิจกรรมต่างๆแต่อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าในอนาคตนั้นกิจการการให้เช่าพื้นที่จัดงาน Event นั้นไปได้ไม่ดีเท่าที่ควรทางผู้บริหารของโรงหนังสกาลาก็อาจจะมีการพิจารณาคืนที่ค่าเช่าให้กับทางมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ต่อไป

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยหุ้น

พนักงานทุจริตยักยอกเงินจากการขายสินค้าออนไลน์ 

บริษัท  ไอที ซิตี้  เสียหายถึง  90 ล้านบาทหลังพบว่าพนักงานทุจริตยักยอกเงินจากการขายสินค้าออนไลน์ 

           เมื่อวันที่ 29 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564  บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน)  ได้มีการออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับปัญหาภายในบริษัทที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เนื่องจากว่าทาง บริษัท ไอที ซิตี้  นั้นสามารถ ตรวจพบผู้กระทำผิด  ซึ่งเป็นพนักงานภายใน บริษัทไอที ซิตี้ เองโดยตรงโดยพนักงานคนดังกล่าวนั้นทำหน้าที่เป็นพนักงานที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  แต่มีการทุจริตสร้างความเสียหายให้กับบริษัทสูงถึง 90 ล้านบาท 

      สำหรับวิธีการทุจริตของพนักงานคนดังกล่าวนั้นทางบริษัทไอทีซิตี้ระบุว่าเป็นการทุจริตผ่านช่องทางการชำระเงินซึ่งเป็นการชำระเงินจากการที่บริษัทมีการขายสินค้าออนไลน์และลูกค้ามีการชำระเงินเข้ามาผ่านทางระบบออนไลน์  ในขณะนี้ทางบริษัทไอทีซิตี้ได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องของการทุจริตของพนักงานคนดังกล่าวและในขณะนี้ก็สามารถรู้ตัวคนที่ทำการทุจริตได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมทั้งเข้าไปดูแลและเข้าไปแก้ไขเกี่ยวกับการทุจริตและวิธีการทุจริตของพนักงานคนดังกล่าว

          ที่สำคัญในขณะนี้บริษัทไอทีซิตี้ได้มีการขับไล่พนักงานที่ทำการทุจริตบริษัทออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วและจะมีการส่งเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยทางบริษัทจะให้กฎหมายลงโทษพนักงานคนดังกล่าวทั้งทางแพ่งและทางอาญาและนอกจากนี้จะมีการตรวจสอบเชิงลึกว่าการทุจริตในครั้งนี้มีใครร่วมในการทุจริตบ้างและจะมีการเอาโทษคนที่มีการทุจริตทุกคนให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะได้มีการติดตามเงินจากที่พนักงานทุจริตไป

          นอกจากนี้ทางด้านผู้บริหารของบริษัทไอที ซิตี้  ยังได้มีการออกมาพูดถึงสถานการณ์ของบริษัทในปัจจุบันว่าถึงแม้ว่าบริษัทจะถูกยักยอกเงินไปและสูญเสียรายได้มากถึง 90 ล้านบาทแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทไอทีซิตี้แต่อย่างใด

            เพราะบริษัทยังคงมีเงินหมุนเวียนที่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้เนื่องจากว่าบริษัทไอทีซิตี้นั้นมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างดีดังนั้นจึงมีเงินเก็บสำรองเอาไว้เพื่อรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งบริษัทไอทีซิตี้จะได้นำเงินดังกล่าวมาใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป  

                  นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสร้างความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมากสำหรับการที่พนักงานมีการยักยอกเงินและเงินที่พนักงานคนดังกล่าวยกย่องไปจากบริษัทไอทีซิตี้นั้นเป็นจำนวนเงินมหาศาลมากเลยทีเดียวซึ่งถ้าหากเป็นบริษัทที่ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนหนาแน่นแล้วก็อาจจะทำให้บริษัทล้มละลายเลยก็ได้โชคยินดีที่บริษัทไอทีซิตี้นั้นมีผลประกอบการที่ดีและมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีจึงยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

        

สนับสนุนโดย  หาเงินจากหวยหุ้น

เด็กชายวัย 12 ปีของประเทศอเมริกาทำ Challenge จนสมองตาย หลังเลียนแบบคลิปในติ๊กต๊อก 

             Application tiktok เป็น  Application กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมักมีการนำคลิปต่างๆมาเผยแพร่อยู่เสมอและหนึ่งในคลิปที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือคลิปการทำ Challenge โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีคนขึ้นมาแล้วมักจะมีคนลอกเลียนแบบทำตามซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์หน้าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจากรัฐโคโลราโด

      โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกเผยแพร่จากเว็บไซต์ข่าวเว็บไซต์หนึ่งโดยระบุว่าเมื่อวันที่ 22 เดือนมีนาคมปีพศ. 2564 ได้มีครอบครัวหนึ่งซึ่งเขามีลูกชายฝาแฝดโดยลูกชายของเขาคนหนึ่งชื่อว่า โจซัว ซึ่งมีอายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้นไม่มีการเรียนแบบ Application ในติ๊กต๊อกซึ่งได้มีการท้าให้คนมาทำชาเล้นตามโดย Challenge กล่าวนั้นมีชื่อว่า Blackput Challenge

        สำหรับ Challenge นี้จะเป็นการท้าทายให้คนนำเชือกรองเท้ามาผูกคอให้ตนเองนั้นหมดสติแล้วถ่ายคลิป หลังจากนั้นให้นำมาเผยแพร่ลงใน Application ซึ่ง Challenge นี้มีคนทำกันเป็นจำนวนมากและก็เคยมีคนที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำชาเล้นนี้กันมาเยอะแล้วโดยบางคนนั้นเสียชีวิตจากการทำชาเล้นนี้  และสำหรับเด็กชายวัย 12 ปีคนนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อเขาได้แอบทำชาเล้นนี้คนเดียวภายในห้องน้ำ

       เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่เด็กชายโจชัวแอบทำชาเลนนี้โดยที่ไม่บอกใครและกว่าจะมีคนมาเห็นเขาก็หมดสติแล้วซึ่งคนที่มาเห็นว่าเขานอนหมดสติในห้องน้ำนั้นคือพี่ชายฝาแฝดของเขานั่นเองหลังจากที่เห็นว่าน้องชายฝาแฝดหมดสติในห้องน้ำเขาจึงได้แจ้งให้รถพยาบาลมารับน้องชายของเขาไปส่งโรงพยาบาลแต่ระหว่างนั้นตัวเขาเองก็ช่วยทำการกู้ชีพด้วยการทำ CPR ให้กับน้องชายฝาแฝดของเขาแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้

       เพราะเมื่อ โจซัว ไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็แจ้งกับครอบครัวของโจซัว ว่า ไม่สามารถรักษาอาการได้แล้วเนื่องจากว่าเด็กอยู่ในสภาวะที่ตอนนี้สมองตายเรียบร้อยแล้วเนื่องจากขาดออกซิเจนเป็นระยะเวลานานนั่นเองซึ่งทางด้านคุณหมอที่ตรวจร่างกายของโจชัวนั้นแนะนำให้ครอบครัวของเขาทำใจผมไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้อย่างแน่นอนแต่ครอบครัวของเขานั้นก็ยังยืนยันว่าจะให้ทางคุณหมอทำการรักษา โจซัว ต่อไปจนกว่า โจซัวจะหมดลมหายใจไปเอง 

         ซึ่งทางครอบครัวของโจตัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือญาติหรือเพื่อนของตัวนั้นทุกคนต่างก็ภาวนาให้โจซัวนั้นกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง โดยทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกไม่นานเขาจะตื่นขึ้นมาเนื่องจากว่าเขาเป็นนักสู้ตัวน้อย 

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ที่จะต้องมีการแนะนำการเล่นโซเชียลมีเดียให้กับบุตรหลานของตนเองเพราะบางครั้งเราไม่สามารถที่จะลอกเลียนแบบพฤติกรรมของคนอื่นได้หมดเพราะบางพฤติกรรมนั้นก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิตและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายของผู้ที่ทำได้เช่นเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำชาเล้นท้าทายต่างๆแบบนี้ 

 

สนับสนุนโดย.    ผลหวยยี่กีล่าสุด

คุณตาวัย 87 ปีถูกรถชนเสียชีวิตขนาดรีบออกจากบ้านตอนตี 4 เพื่อไปรับบัตรคิวที่ธนาคาร

          เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อมีคุณตาอายุ 87 ปี ประสบอุบัติเหตุขณะที่ขี่รถจักรยานเดินทางเข้าตัวเมืองเพื่อที่จะไปรอรับบัตรคิวที่ธนาคาร ธกส. และอุบัติเหตุในครั้งนั้นส่งผลให้คุณตาวัย 87 ปีเสียชีวิตคาที่ทันที  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เดือนธันวาคมปีพศ2563 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 04:30 น.

       สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตนั้น ต้องการที่จะไปทำการตรวจสอบเงินที่ธนาคาร ธกส. รวมถึงต้องการที่จะเบิกเงินออกมาใช้จ่าย   โดยคุณตาวัย 87 ปีนั้นได้มีการติดต่อที่ธนาคารแล้วแต่เมื่อเดินทางไปถึงกับพบว่าจำนวนคิวที่มีลูกค้ามาใช้บริการที่ธนาคารนั้นเต็มแล้ว

โดยธนาคารให้เหตุผลในการให้บริการลูกค้าในแต่ละวันว่าจะให้บริการลูกค้าเพียงแค่วันละ 300 คนเท่านั้นและในวันดังกล่าวมีการใช้คิวเต็มแล้วดังนั้นในวันรุ่งขึ้นคุณตาวัย 87 ปีจึงได้ตัดสินใจที่จะไปจองคิวล่วงหน้าโดยออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 4:00 น. 

        และเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุก็ปรากฏว่าประสบอุบัติเหตุ รถกระบะที่ขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนคุณตาเนื่องจากว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นยังเป็นช่วงเวลาค่อนข้างมืดและถนนหนทางก็ไม่มีไฟส่องทำให้รถกระบะไม่เห็นรถจักรยานที่คุณตาขี่มาจึงทำให้เกิดการชนกันเกิดขึ้น

และเป็นสาเหตุให้คุณตาเสียชีวิตรถจักรยานตกอยู่บริเวณข้างทาง ซึ่งข้างศพของคุณตาวัย 87 ปีนั้นยังพบบัตรของลูกค้าธนาคาร ธกส.  รวมถึงยังมีสมุดบัญชีของธนาคาร ธกส.ตกอยู่ด้วย 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านผู้ที่ขับขี่รถกระบะที่เป็นรถที่ชนคุณตานั้นไม่ได้หนีไปไหนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในขณะเดียวกันทั้งด้านลูกสาวของคุณตาที่เสียชีวิตนั้นได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเธอรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มากเพราะที่จริงแล้วพ่อของเธอไม่ควรจะมาเสียชีวิตจากระบบการจองคิวของทางธนาคาร

          โดยลูกสาวของคุณตาหวังว่าทางธนาคารจะมีการปรับปรุงการให้บริการเกี่ยวกับเรื่องของการรับบัตรคิวของลูกค้าที่ไปใช้บริการเพื่อให้เคสของพ่อของเธอนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่จะต้องเสียชีวิตจากการที่ต้องรีบออกไปรับบัตรคิวตั้งแต่เช้าตรู่

  โดยทั้งตัวเธอเองและคนในครอบครัวของเธอมองว่าครอบครัวของเธอไม่ควรที่จะต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เลยและเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีผู้เสียชีวิตจากการที่ต้องรีบไปรอรับบัตรคิวของทางธนาคารนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

คดีหวยของป้าไพมณีจะจบอย่างไร

          ในช่วงเวลานี้คนไทยทั้งประเทศกำลังจับตามองการตัดสินเกี่ยวกับคดีการถูกลอตเตอรี่ จำนวน 12 ล้านที่กำลังมีการแย่งการเป็นเจ้าของกันอยู่ ระหว่างป้าไพมณี ซึ่งเธอนั้นยืนยันว่ามีการสั่งซื้อเอาไว้ แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน รวมถึงยังได้มีการฝากลอตเตอรี่ที่ซื้อแล้วให้กับแม่ค้าขายลอตเตอรี่

       และเมื่อผลการประกาศรางวัลออกมา มีการถูกลอตเตอรี่จริงๆ กลับมีดราม่าเกิดขึ้น เมื่อแม่ค้าที่ขายให้บอกว่ามีการขายต่อให้กับลูกค้าคนอื่นไปแล้ว เพราะป้าไพมณีไม่ยอมมาจ่ายเงิน ในขณะที่ป้าไพมณีเองก็บอกว่าการซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเจ้านี้มักจะมีการจ่ายเงินกันทีหลังเป็นประจำ ซึ่งลูกค้าคนอื่นอื่นต่างก็ยืนยันข้อมูลตาป้าไพมณี

       อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนที่ได้ติดตามข่าวหวย 12 ล้านนี้ต่างก็พากันลุ้นว่าสุดท้ายแล้ว คนที่จะได้เงิน 12 ล้านบาทไปนั้นจะเป็นใครกันแน่   ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้โด่งดังออกไปทางด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกองฉลาก ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องของหวย 12 ล้านนี้ด้วยว่า ทางกองฉลากจะไม่มองเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อขายกันแต่อย่างใด

          แต่จะมองว่าหากลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวไมได้มีการติดอายัดจากศาล หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบและยืนยันตัวตนของเจ้าอขงลอตเตอรี่ที่แท้จริงได้ ต่อให้มีการถ่ายรูปลอตเตอรี่เอาไว้ หรือแม้แต่มีการเซ็นชื่อด้านหลังเอาไว้ก็ไม่สามาถขึ้นเงินรางวัลได้อย่างแน่นอน

    สรุปแล้วทางด้านกองฉลากจะมองว่าใครที่มีใบลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลอยู่ในมือ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของลอตเตอรี่อย่างแท้จริงได้ ไม่มีการอายัดเงินรางวัล ก็สามารถขึ้นเงินรางวัลได้เลย 

      สำหรับเรื่องนี้จะมีปัญหาอยู่ที่ป้าไพมณี ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าลอตเตอรี่และที่สำคัญหลังจากแจ้งความต้องการกับแม่ค้าขายลอตเตอรี่ว่าจะซื้อแล้วอะไร และทำการเซ็นชื่อจองแล้ว แต่กลับปล่อยผ่านไปหลายวัน ไม่ยอมไปจ่ายเงิน และไม่ยอมไปเอาลอตเตอรี่มาเก็บไว้กับตัว ทำให้แม่ค้าอาจจะเข้าใจได้ว่า ลูกค้าไม่ซื้อลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวแล้ว และได้นำออกมาขายต่อให้กับคนอื่นนั่นเอง 

      ดังนั้นตอนนี้บทสรุปสุดท้ายจึงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงานพิสูจน์ให้ได้เกี่ยวกับเจ้าของลอตเตอรี่ 12 ล้านในครั้งนี้ว่าสุดท้ายเจ้าของคือใคร หรือหากว่าสามารถพูดคุยกันได้ ก็อาจจะมีการตกลงกันระหว่างป้าไพมณี กับเจ้าของลอตเตอรี่คนใหม่ ทำการแบ่งลอตเตอรี่กันคนละใบ จะได้ถูกรางวัลทั้งสองฝ่าย ได้เงินไปใช้กันคนละ 6 ล้านบาทแบบง่ายๆโดยไม่ต้องเสียเวลาไปต่อสู้กันในชั้นศาลอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  หวยลาวฮานอยวันนี้

อดีตลูกจ้างโฉด วางแผนปล้นหวังเงิน 30 ล้านแต่ถูกตลบหลัง ถูกสังหารเรียบ

            เมื่อวันที่ 1 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2564  ที่ประเทศกัมพูชา  ณ  กรุงพนมเปญเกิดเหตุการณ์ ระทึกขวัญเกิดขึ้น เมื่อมีคนร้ายรวมทั้งสิ้น 4 คนวางแผนที่จะเข้าไปปล้นทรัพย์สินนักธุรกิจรายใหญ่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักธุรกิจตลบหลังโดนสังหาร เรียบทั้ง 4 คน 

         เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.   มาบ้านของนักธุรกิจรายหนึ่งได้ถูกคนร้ายทั้งหมด 4 คนนำอาวุธสงครามเข้าไปหวังปล้นทรัพย์สินแต่เหตุการณ์นี้ทางด้านเจ้าของบ้านซึ่งเป็นนักธุรกิจรู้เรื่องก่อนจึงได้มีการวางแผนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตลบหลังคนร้าย

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เริ่มต้นเมื่ออดีตคนขับรถของนักธุรกิจคนนี้ได้ถูกนายจ้างเลิกจ้างงานเมื่อช่วงประมาณ ปี พ.ศ. 2562  หลังจากนั้นก็ได้มีการจ้างคนขับรถคนใหม่มาทำงาน  แต่หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อดีตลูกจ้างก็ได้กลับมาขอนักธุรกิจทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ถูกปฏิเสธจึงทำให้เขานั้นไม่พอใจและได้มีการส่วนพรรคพวกอีกประมาณ 3 คนหวังที่จะเข้ามาชิงทรัพย์และฆ่านักธุรกิจและคนในครอบครัว 

      โดยอดีตลูกจ้างรายนี้ได้มีการติดต่อคนขับรถคนใหม่ของนักธุรกิจให้เข้าร่วมแผนการด้วยซึ่งแผนการนั้นจะมีการปรับตัวนักธุรกิจและคนในครอบครัวเป็นตัวประกัน แล้วจะมีการบังคับให้เซ็นเช็คให้จำนวน 30 ล้านบาทหลังจากที่มีการเซ็นเช็คเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการฆ่าคนในครอบครัวทั้งหมด 10 คนด้วยกัน

       แผนการกลับไม่เป็นไปตามคาดเมื่อคนขับรถคนใหม่นั้นหวาดกลัวเกรงว่าตนเองจะมีความผิดจึงได้มาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นักธุรกิจฟังและนักธุรกิจจึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยให้มาตลบหลังอดีตลูกจ้างที่จะเข้ามาปล้นในครั้งนี้

ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนักธุรกิจและคนในครอบครัวนั้นไปไว้ในที่ปลอดภัยหลังจากนั้นก็ให้คนขับรถคนใหม่พาคนร้ายทั้ง 4 คนเข้ามาในบ้านโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยล้อมบ้านเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

      ซึ่งคนร้ายทั้ง 4 คนได้เข้าไปในบ้านเพื่อหวังจะเข้าไปทำการปล้นเงินนักธุรกิจโดยมีคนขับรถคนใหม่ไม่ยอมเข้าไปในบ้านแต่ทำทีว่าไปปิดประตูรั้วบ้านหลังจากนั้นก็หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งให้คนร้ายมอบตัวแต่คนร้ายขัดขืนจึงได้มีการยิงต่อสู้กันเกิดขึ้นและสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารตายทั้งหมด 4 คน 

       เหตุการณ์ในครั้งนี้ โชคดีมากที่คนขับรถไม่ร่วมขบวนการปล้นในครั้งนี้ไม่เช่นนั้น คงมีเหตุการณ์ตายหมู่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์ ruay

ของแถมที่ได้จากการซื้อตำข้าวโพด ทำเอาคนกินอ๊วกแทบพุ่ง 

           ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนในโลกออนไลน์ค่อนข้างมีการโพสต์กันเยอะมากเกี่ยวกับเรื่องของอาหารที่สั่งซื้อแล้วมักจะมีของแถมตามมาซึ่งของแถมที่ได้นั้นส่วนใหญ่ที่มีการแชร์กันก็ทำให้บรรดาลูกค้าที่ซื้อนั้นอ้วกแทบพุ่งกันเลยทีเดียวอย่างล่าสุดก็เป็นภาพของลูกค้ารายหนึ่งที่มีการไปสั่งซื้อตำข้าวโพด

           แต่ได้ของแถมเหมือนกับปลาแซลมอนแต่ที่ไหนได้พอดูใกล้ๆมันคือพลาสเตอร์แปะแผลนั่นเองที่สำคัญเมื่อลูกค้าบอกให้แม่ค้าทราบเกี่ยวกับของแถมที่แถมมาในตำข้าวโพดปรากฏว่าแม่ค้าตีหมื่นไม่ยอมขอโทษสักคำเดียว 

         เหตุการณ์ที่มีพลาสเตอร์แปะแผลเป็นของแถมในตำข้าวโพดในครั้งนี้ถูกโพสต์ขึ้นมาใน Facebook เมื่อวันที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2564 โดยลูกค้าที่ไปซื้อแล้วได้ของแถมมาได้มีการโพสต์เพื่อเป็นการบอกกล่าวคนในโลกออนไลน์ให้รู้ว่าร้านขายส้มตำร้านดังกล่าวนั้นไม่มีความรับผิดชอบและร้านไม่สะอาดไม่ถูกสุขลักษณะ ที่สำคัญเมื่อมีความผิดแล้วกลับไม่ขอโทษลูกค้า

      ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เห็นข้อความในโพสต์ดังกล่าวนั้นต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากโดยส่วนใหญ่นั้นมองว่าร้านขายส้มตำร้านนี้ขายความรับผิดชอบและจิตสำนึกไม่รักษาความสะอาดไม่ระมัดระวังสิ่งแปลกปลอมที่จะตกลงไปในอาหารให้กับลูกค้าและที่สำคัญ 

           เมื่อลูกค้าเจอสิ่งแปลกปลอมแล้วมีการร้องเรียนทางร้านค้าแทนที่ร้านค้าจะรับมาปรับปรุงและแก้ไขพร้อมทั้งขอโทษลูกค้ากับทำนิ่งเฉยซึ่งหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมของการบริการที่ไม่ดีและไม่ควรที่จะสนับสนุนหลายคนได้มีการแท็กมาถามเจ้าของ Facebook คนดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องของชื่อร้านขายส้มตำ

           เนื่องจากว่าจะได้มีการหลีกเลี่ยงไม่ต้องไปซื้อส้มตำร้านนั้นในขณะที่บางคนก็เข้ามาพูดคุยอย่างสนุกสนานว่าจากที่มีการโพสต์ภาพขึ้นมานั้นตอนแรกยังคิดว่าเป็นปลาแซลมอนเป็นของแถมให้กับลูกค้าเลย

         สำหรับร้านส้มตำดังกล่าวนั้นลูกค้าระบุพิกัดว่าอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการโดยร้านนี้ตั้งขายอยู่ตรงบริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการนั่นเอง   

         เชื่อว่าหลังจากที่ข้อความนี้ถูกลบออกไปและมีกระแสวิจารณ์อย่างหนักแบบนี้ร้านขายส้มตำดังกล่าวน่าจะมีจำนวนลูกค้าที่ลดลงเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและยังไม่มีการออกมาขอโทษนะปรับปรุงการให้บริการของร้านเชื่อว่าร้านนั้นจะไม่มีคนซื้อในอนาคตอย่างแน่นอน 

     ดังนั้นหากร้านค้าร้านไหน ไม่อยากมีจุดจบ ถูกกระแสสังคมวิจารณ์และต่อต้านไม่ไปซื้อของ เหมือนกันร้านนี้ควรจะระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของความสะอาดและหากพบข้อผิดพลาดควรรีบขอโทษลูกค้าจะเป็นการดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์ lottovip

เด็กอนุบาล 3 ถูกคุณครูเท้าถีบหน้าแถมสั่งให้เพื่อนในห้องรุมกระทืบ

                เหตุการณ์ที่ครูทำร้ายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล  ของที่โรงเรียนสารสาสน์นั้นเพิ่งจะพาไป  แต่ที่จังหวัดภูเก็ตนั้นซึ่งมีเหตุการณ์คุณครูทำร้ายเด็กนักเรียนเกิดขึ้นอีกครั้งซึ่งเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายนั้นเป็นเด็กนักเรียนชายเรียนอยู่เพียงชั้นอนุบาล 3 เท่านั้นเอง

ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตซึ่ง  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายนปีพศ 2563  โดยทางผู้ปกครองของเด็กนั้นได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจพร้อมได้มีการประสานงานขอความช่วยเหลือไปทางมูลนิธิของคุณปวีณาหงสกุลเพื่อให้เข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ที่คุณครูทำร้ายเด็กนักเรียนในครั้งนี้

          สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการระบุว่าเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน   เด็กนักเรียนชายอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้นคือคุณครูประจำชั้นซึ่งเป็นคุณครูผู้ชายใช้เท้าของคุณครูถีบไปที่ใบหน้าของเด็กเท่านั้นยังไม่พอคุณครูผู้ชายคนดังกล่าวนั้น

ยังได้มีการสั่งให้เด็กนักเรียนคนอื่นซึ่งเป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกันช่วยกันกระทืบเด็กนักเรียนวัย 5 ขวบคนดังกล่าว   จนเด็กชายวัย 5 ขวบที่ถูกรุมทำร้ายนั้นมีการบาดเจ็บซึ่งที่ใบหน้ามีรอยพกช้ำโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและยังมีรอยห้อเลือดบริเวณแขนและขา   

       และเมื่อผู้ปกครองของเด็กๆมาสอบถามกับคุณครูประจำชั้นคนดังกล่าวเขาก็ได้ยอมรับว่าเป็นคนทำตามที่เด็กได้ฟ้องจริงซึ่งคุณครูให้เหตุผลของการฉีดหน้าเด็กและสั่งให้เด็กนักเรียนคนอื่นรุมทำร้ายชายคนนี้นั่นก็เพราะว่าเด็กชายคนดังกล่าวนั้นดื้อมากและไม่สามารถบอกหรือสอนอะไรได้อีกทั้งยังชอบทะเลาะกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆจึงทำให้คุณครูทนไม่ไหวจนลงมือทำร้ายเด็ก

         อย่างไรก็ตามคุณครูประจำชั้นคนดังกล่าวได้มีการเสนอที่จะจ่ายเงินค่าทำขวัญให้กับครอบครัวของเด็กที่ถูกทำร้ายเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท  เพื่อให้เรื่องเงียบ  แต่ทางด้านผู้ปกครองของเด็กต้องการที่จะเอาเรื่องคุณครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด  และเนื่องจากว่าผู้ปกครองของเด็กกลัวว่าเรื่องราวจะเงียบไปจึงได้ขอให้ทางมูลนิธิของคุณปวีณามาช่วยเป็นตัวประสานงานติดตามเรื่องราวในครั้งนี้ให้

          ซึ่งเบื้องต้นในขณะนี้ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนได้ออกมาขอโทษแทนคุณครูประชาชนแล้วและได้มีการลงโทษคุณครูประจำชั้นด้วยการย้ายไปให้สอนที่อื่นรวมถึงกำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่ในขณะนี้   ส่วนทางด้านตัวเด็กเองนั้นตอนนี้ยังอยู่ในอาการหวาดผวาหวาดกลัวการไปโรงเรียนจนทำให้ผู้ปกครองของเด็กนั้นจำเป็นต้องย้ายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 คนนี้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอื่นแทนเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์ lotto

เด็กหญิงรัสเซียวัย 14 ปีคลอดทารกแล้วจับแช่แข็งในตู้เย็น 

 

         เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซียโดยมีรายงานข่าวออกมาเมื่อวันที่ 28 เดือนตุลาคมพ.ศ 2553 ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่ามีหญิงสาววัย 14 ปีเธออยู่ในเมืองโนโวซีบีสค์   เธอได้ก่อเหตุสะเทือนใจและสะเทือนขวัญขึ้นเมื่อเธอได้นำเด็กทารกแรกเกิดไปแช่แข็งในตู้เย็นจนเป็นเหตุให้ทารกเสียชีวิตส่วนตัวเธอเองนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการตกเลือด

         ตามรายงานข่าวระบุว่า  เด็กหญิงวัย 14 ปีคนนี้ก็แอบตั้งครรภ์โดยที่ไม่บอกให้พ่อแม่ได้รู้  ซึ่งพ่อกับแม่ของเธอเองคิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นเธอเพียงแค่อ้วนขึ้นเท่านั้นในขณะที่เพื่อนบ้านต่างก็พากันสงสัยและเคยมาถามเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีแต่พวกเขาก็ปฏิเสธเพื่อนบ้านไปโดยให้เหตุผลว่าลูกสาวของเขาอ้วนขึ้นไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์แต่อย่างไร

        อย่างไรก็ตามในช่วงคืนของวันที่ 28 เดือนตุลาคมปรากฏว่าแม่ของเด็กหญิงได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ในห้องนอนของตนเองแล้วร้องครวญครางซึ่งแม่ของเธอเข้าใจว่าลูกสาวของเขานั้นปวดท้องจึงไม่ได้เข้ามาดูลูกแต่อย่างใด   และจากอาการนี้เองทำให้เด็กหญิงวัย 14 ปี

สามารถแอบคลอดลูกในห้องนอนของตนเองได้หลังจากที่คลอดทารกเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอได้นำทารกที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่นั้นใส่ไปในถุงพลาสติกหลังจากนั้นก็แอบพ่อและแม่นำทารกในถุงพลาสติกไปแช่ไว้ในตู้แช่แข็งในโรงจอดรถ

ซึ่งในขณะนั้นพ่อของเธอทำงานอยู่ในสวนหลังบ้านไม่ได้สังเกตเธอว่าทำอะไรอยู่ในขณะที่แม่ของเธอนั้นก็ทำงานบ้านอื่นๆดังนั้นในช่วงเวลาที่เธอคลอดลูกรวมถึงนำลูกไปแช่ในตู้เย็นจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เลย

          อย่างไรก็ตามแต่พ่อกับแม่ของเธอรู้ว่าเธอคลอดลูกหลังจากที่พวกเขามาเจอว่าเด็กหญิงนั้นมีอาการตกเลือดดังนั้นพวกเขาจึงได้มีการเรียกรถพยาบาลเพื่อพาเธอไปรักษาอาการตกเลือดจึงทำให้ได้รู้ความจริงว่าเธอนั้นแอบคลอดลูกและลูกของเธอนั้นเสียชีวิตอยู่ในตู้เย็นภายในโรงจอดรถของตัวบ้าน

          สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอาจจะมีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูลูกที่ปล่อยให้มีอิสระเสรีมากเกินไปของคนครอบครัวนี้ทำให้พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าลูกของตนเองนั้นมีความผิดปกติแบบไหน  และจากการให้ข้อมูลของเด็กหญิงวัย 14 ปีระบุว่าสาเหตุที่เธอต้องฆ่าลูกของตนเองก็เพราะว่าเธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะดุด่าเธอที่เธอนั้นแอบตั้งครรภ์

  ซึ่งการกระทำแบบนี้เป็นการสอนให้เห็นว่าเด็กหญิงวัย 14 ปีนั้นมีจิตใจที่โหดเหี่ยมมาก แต่เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากว่าพ่อกับแม่ของเด็กหญิงอายุ 14 ปีสนใจดูแลลูกตัวเองมากขึ้น เพราะถ้าหากตั้งแต่ที่แม่ได้ยินเสียงลูกสาวร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วเธอเข้ามาดูอาการของลูกเธอก็จะพบว่าลูกของเธอนั้นคลอดทารกออกมาและอาจจะสามารถช่วยเหลือทารกได้ทันท่วงทีนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์